สรุป คำนามทั่วไป และ คำนามเฉพาะ ในภาษาอังกฤษ

คำนามทั่วไป (common nouns) และคำนามเฉพาะ (proper nouns) ภาษาอังกฤษนอกจากจะแบ่งคำนามนับได้ และคำนามนับไม่ได้แล้ว ในภาษาอังกฤษยังมีการแบ่งคำนามอีกแบบหนึ่งดังนี้ 1.คำนามทั่วไป […]

คำนามทั่วไป (common nouns) และคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ภาษาอังกฤษนอกจากจะแบ่งคำนามนับได้ และคำนามนับไม่ได้แล้ว ในภาษาอังกฤษยังมีการแบ่งคำนามอีกแบบหนึ่งดังนี้

1.คำนามทั่วไป (common nouns)และ 2.คำนามเฉพาะ (proper nouns)

1.คำนามทั่วไป (common nouns) ก็คือ คำนามที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ อาคาร บ้านเรือน สถานที่ แบบทั่วไป ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่า เป็นคนไหน ชื่ออะไร หรือสถานที่ไหน นั่นเอง

2.คำนามเฉพาะ (proper nouns) ก็คือ คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ อาคาร บ้านเรือน สถานที่ต่างๆ
ถ้าพอเข้าใจในเรื่องของคำนามทั้ง คำนามทั่วไป (common nouns) และคำนามเฉพาะ (proper nouns) แล้ว มาดูตัวอย่างกันเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ความแตกต่างข้อที่ 1 (เกี่ยวกับชื่อคน)
Man แปลว่า ผู้ชาย เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
ก็อย่างเช่นใส่ชื่อคนเช่น Owen ก็คือชื่อ โอเว่น คำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 2 (เกี่ยวกับชื่อคน)
Girl แปลว่า เด็กผู้หญิง เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
ก็อย่างเช่นใส่ชื่อคนเช่น Mary ก็คือชื่อ แมรี่ เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 3 (เกี่ยวกับสถานที่)
School แปลว่า โรงเรียน เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Watkhemapirataram ก็คือ วัดเขมาภิรตาราม เวลามารวมกันก็จะเป็น Watkhepirataram School แปลว่า โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 4 (เกี่ยวกับสถานที่)
Mountain แปลว่า ภูเขา เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Everest แปลว่า เอเวอเรสต์ เป็นชื่อของภูเขา เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 5 (เกี่ยวกับสินค้า)
Clothes แปลว่า เสื้อผ้า เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Zara เป็นแบรนด์ของสื้อผ้า เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 6 (เกี่ยวกับเครื่องดื่ม)
Soda แปลว่า น้ำอัดลม เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Pepsi แปลว่า เป๊ปซี่ เป็นชื่อของน้ำอัดลม เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 7 (เกี่ยวกับหนังสือ)
Novel แปลว่า นิยาย เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Harry Potter แปลว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นชื่อภาพยนต์ เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 8 (เกี่ยวกับเดือน)
Month แปลว่า เดือน เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
June แปลว่า มิถุนายน เป็นชื่อเดือน ที่ 6 ของปี เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

ความแตกต่างข้อที่ 9 (เกี่ยวกับวัน)
Day แปลว่า วัน เป็นคำนามทั่วไป (common nouns)
Monday แปลว่า วันจันทร์ เป็นคำนามเฉพาะ (proper nouns)

พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับสำหรับการเปรียบเทียบ คำนามทั่วไป (common nouns) และคำนามเฉพาะ (proper nouns) ว่ามันมีข้อแตกต่างกันอย่างไร ทีนี้มีอีกหนึ่งประเด็นที่ต้งควรระวังเวลาใช้คำนามเฉพาะ (proper nouns) ก็คือ คำนามเฉพาะ (proper nouns) จะต้องขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของประโยคก็ตาม ตัวอย่างเช่น

I live in London. แปลว่า ฉันอาศัยอยู่ที่ลอนดอน

และถ้าคำนามเฉพาะ (proper nouns) นั้นมีหลายพยางค์ประกอบกัน ทุกพยางค์ต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ ยกเว้นว่าในคำนั้นมีบางพยางค์เป็น a, an, the หรือ and คำเหล่านี้เป็นตัวเล็ก ลองดูตัวอย่างประโยคดังนี้

I study at Triam Udom Suksa School.
แปลว่า ฉันเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (จะสังเกตไหมครับว่าหลังคำว่า at จะเป็นตัว พิมพ์ใหญ่หมดเลย)

My favorite book is Harry Potter and the Half-Blood Prince.
แปลว่า หนังสือเล่มโปรดของฉันคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ แอนด์ เธอะ ฮาฟบลัด ปริ้นซ์ (จะสังเกตได้ว่าจะพิมพ์ใหญ่)

Big Ben is one of the most famous landmarks in London in England.
แปลว่า หอนาฬิกาบิกเบนเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในลอนดอนประเทศอังกฤษ

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
tense
คำคมภาษาอังกฤษ

แชร์ไว้อ่าน