สรุป Sentence Structure คืออะไร มีอะไรบ้าง

Sentence Structure and Types of Sentences in English

สรุป Sentence Structure โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ

Sentence Structure คืออะไร

Sentence Structure คือ โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ ประกอบไปด้วย 2 หัวข้อหลัก คือ โครงสร้างประโยค (Structure) และรูปแบบประโยค (Sentence Type)

Sentence Structure มีอะไรบ้าง

โครงสร้างประโยคพื้นฐานสามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ คือ S + V, S + V + 0 และ S + V + I0 + DO ส่วนรูปแบบประโยคก็สามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบย่อย คือ Simple Sentence, Compound Sentence, Complex Sentence และ Compound-Complex Sentence ดังนี้

1. Structure (โครงสร้างประโยค)

ประโยคภาษาอังกฤษมีส่วนสำคัญสองส่วน คือ ภาคประธานและภาคแสดง ซึ่งก็คือ ประธาน (Subject) และ คำกริยา (Verb) นั่นเอง

โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษที่ควรรู้มี 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

1. S (ประธาน) + V (กริยา)

สำหรับโครงสร้างนี้คำกริยาจะเป็นประเภทคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เช่น sleep (หลับ), go (ไป), arrive (มาถึง), laugh (หัวเราะ), lie (โกหก), come (มา), cry (ร้องไห้), sit (นั่ง)

2. S (ประธาน) + V (กริยา) + O (กรรม)

สำหรับโครงสร้างนี้คำกริยาจะเป็นประเภทคำกริยาที่ต้องการกรรม (Transitive Verb) หรือคำกริยาที่เป็นได้ทั้งแบบต้องการกรรม (Transitive Verb) และไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เช่น

watch (ดู), tell (บอก), buy (ซื้อ), edit (แก้ไข), drink (ดื่ม), wash (ล้าง), send (ส่ง), contain (มี)

3. S (ประธาน) + V (กริยา) + IO (กรรมรอง) + DO (กรรมตรง)

สำหรับโครงสร้างนี้คำกริยาจะเป็นประเภทคำกริยาที่ต้องการกรรม (Transitive Verb) เท่านั้น และจะมีกรรมสองตัวในประโยค คือ กรรมตรง (Direct Object) และกรรมรอง (Indirect Object) โดยกรรมตรงมักจะเป็นสิ่งของ ส่วนกรรมรองมักจะเป็นคน โครงสร้างนี้ใช้เพื่อบอกว่า ใครทำอะไรหรือให้อะไรแก่ใคร

2. Sentence Type (ชนิดประโยค)

นอกจากเรื่องโครงสร้างประโยคพื้นฐาน (Structure) ทั้ง 3 แบบแล้ว ภาษาอังกฤษยังมีรูปแบบประโยค (Sentence Type) ที่สำคัญอีก 4 แบบด้วยกัน ซึ่งประโยคแต่ละแบบจะมีโครงสร้างที่สามารถพบได้ดังต่อไปนี้

1. Simple Sentence หรือ ประโยคความเดียว

Simple Sentence คือ ประโยคที่มีประธาน (Subject) และคำกริยา (Verb) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Independent Clause (อนุประโยคอิสระ) ซึ่งประโยคความเดียวจะมี Independent Clause 1 ประโยค ซึ่งสามารถอยู่เดี่ยว ๆ ได้ ไม่ต้องมีคำเชื่อม หรือประโยคอื่น ๆ มาเสริม

2. Compound Sentence หรือ ประโยคความรวม

Compound Sentence คือ ประโยคที่มี Independent Clause ที่เป็นประโยคความเดียว 2 ประโยคขึ้นไป โดยมีคำเชื่อมประเภท Coordinating Conjunction หรือ FANBOYS (for, and, nor, but, or, yet, so) เชื่อมประโยคไว้

3. Complex Sentence หรือ ประโยคความซ้อน

Complex Sentence คือ ประโยคที่มี Independent Clause 1 ประโยค และ Dependent Clause 1 ประโยคขึ้นไป โดยมีคำเชื่อมแบบ Subordinating Conjunction เชื่อมประโยคไว้ เช่น because, since, as, although, even though, when, while, until เป็นต้น

Dependent Clause คือ อนุประโยคไม่อิสระ ซึ่ง Dependent Clause ต้องพึ่งพา Independent Clause เพราะไม่สามารถสื่อความหมายได้อย่างสมบูรณ์ด้วยตัวเอง จึงอยู่ตามลำพังไม่ได้

4. Compound-Complex Sentence หรือ ประโยคความรวมความซ้อน

Compound-Complex Sentence คือ ประโยคที่มี Independent Clause อย่างน้อย 2 ประโยค และ Dependent Clause อีก 1 ประโยคขึ้นไป ประโยคชนิดนี้จะมีคำเชื่อมทั้งแบบ Coordinating Conjunction (FANBOYS) และ
แบบ Subordinating Conjunction เพราะเป็นการนำประโยคความรวมและประโยคความซ้อนมาใช้ร่วมกัน

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
tense
คำคมภาษาอังกฤษ

แชร์ไว้อ่าน